ชนรุ่นใหม่ ดูจะโน้มเอียงไปสู่ความรุนแรงขึ้นทุกวัน
จากนักเรียนขายาวที่ยกพวกตีกัน ลามไปถึงนักเรียนขาสั้น
อาวุธที่ใช้ห้ำหั่นร้ายแรงไม่แพ้กัน
พกไปโรงเรียนแทนดินสอปากกาไม้บรรทัด
ที่ร้ายกว่านั้น นักเรียนหญิงต่างเป็นใจ ช่วยพกพา ช่วยแอบช่วยซ่อนให้
ความรุนแรงจึงไม่ใช่เรื่องของผู้ชายอีกต่อไปแล้ว
เพียงแต่รุนแรงกันคนละอย่าง
ผู้ชายลงไม้ลงมือ ผู้หญิงให้แรงสนับสนุน
ความโหดเหี้ยมจึงไม่ต่างกัน
หากมองในแง่ของดีกรีแล้ว
ผู้หญิงดูจะมากกว่าผู้ชายหลายเท่า
เพราะโดยธรรมชาติผู้หญิงนั้นความนุ่มนวล ความสงสาร ความละเอียดอ่อน ความไวต่อความรู้สึก ความเห็นอกเห็นใจ
เป็นเรื่องคู่กับผู้หญิงมาแต่อ้อนแต่ออก
แค่ไม่เป็นอย่างที่ควรเป็น ก็ถือเป็นความผิดปกติแล้ว
แต่นี่ถึงขนาดเป็นตรงกันข้ามกับธรรมชาติผู้หญิง
จึงย่อมจะรุนแรงในดีกรีกว่าของผู้ชายเป็นไหนๆ
ก่อนนี้มีการพูดกันว่า ผู้หญิงมักตัดสินด้วยหัวใจ
แต่ทุกวันนี้คงต้องพูดว่า ผู้หญิงตัดสินด้วยอารมณ์
ทุกอย่างที่ใช้อารมณ์มักจะมีความรุนแรงแอบแฝงอยู่ด้วยเสมอ
ไม่แง่ใดก็แง่หนึ่ง
แต่อ้อนแต่ออก หลายคนไม่เคยสัมผัสความอ่อนโยน ละมุนละไมของหัวใจ
ซ้ำร้ายยังต้องพบกับความรุนแรงในความรู้สึกและสัมผัส
หัวใจจึงต้องพับไปอย่างช่วยไม่ได้
ยังไม่พอ บ่อยครั้งยังต้องรองรับอารมณ์คนใกล้ชิด
จนเกิดความกร้าว ไม่ต่างกับดินเหนียวตากแดด
ยิ่งบางบ้าน หากไม่มีอารมณ์ เป็นไม่ได้ดังใจ
จึงเกิดการซึมซับวันแล้ววันเล่าว่า
เพื่อจะได้อะไรต้องใช้อารมณ์เป็นหลัก
ผิดถูกค่อยว่ากันทีหลัง
ไม่น้อยคน ต้องพบเห็นกับความรุนแรง
ทะเลาะ
ด่าว่า ตบตี
พ่อกับแม่ พี่กับน้อง ญาติกับมิตร
ความรุนแรงจึงซึมซับเข้าไปในสายเลือด
เพียงแค่รอเวลา รอโอกาส รอจังหวะ
เพื่อให้สิ่งที่สั่งสมไว้สำแดงออกมา ในทุกรูปแบบ
ที่ร้ายคือ เพียงแค่ได้แสดงออกมา กับใครก็ได้
รู้จักไม่รู้จัก
มันจึงไม่ใช่การกระทำที่เกิดจากการกระตุ้น
ถูกยั่วยุ หาเรื่อง จู่โจม
แต่กระทำไปเพราะอยากจะทำเอง
เพียงแค่ได้ระบายความรุนแรงออกมา
คนเราน่ากลัวตรงที่ทำอะไรไม่มีที่มาที่ไป
ไม่มีเหตุ ไม่มีผล
บ่อยครั้งเมื่อเจอกับคำถามว่า "ทำไม" จึงทำ ก็มักจะหาคำตอบไม่ได้
เพราะมันไม่มีคำตอบจริงๆด้วย
แต่ถ้าจะถามว่า "ทำไม" เด็กและวัยรุ่นทุกวันนี้จึงรุนแรง ก้าวร้าว
คำตอบนั้นหาได้ไม่ยาก หากยอมรับความจริงกันสักนิด
ความรุนแรงทุกอย่างก่อให้เกิดความรุนแรง
และมักจะเป็นความรุนแรงกว่าเสมอ
มันจึงเป็นดังลูกโซ่ ที่เริ่มด้วยหนึ่งข้อ แต่วงกลับมาร้อยเป็นสิบเป็นร้อย
มันเริ่มจากความรุนแรงกับธรรมชาติรอบข้าง
ตัด ทำลาย เผา
แม้แต่สัตว์ ต้นไม้ใบหญ้าก็ไม่ละเว้น
ใช้ความรุนแรงให้ผลิตผลของสัตว์ได้ดังใจ
เนื้อแดง เนื้ออ่อน เนื้อเหนียว
บังคับได้หมด
ใช้ความรุนแรงให้ต้นหมากรากไม้ออกดอกออกผลนอกเหนือฤดูกาล
ผิดธรรมชาติของมัน
ใช้ความรุนแรงเพื่อขายผลิตผล
ทั้งยาฆ่าแมลง
ยารักษาความสดความกรอบ
หลอกตาคนบริโภคได้อย่างแนบเนียน
ใช้ความรุนแรงหมด
ทั้งในด้านธุรกิจ เศรษฐกิจ การศึกษา
อาชีพการงาน
เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ที่ตั้งไว้
เจอกับความรุนแรงในรูปแบบต่างๆแล้วยังไม่พอ
ยังต้องกินต้องดื่มความรุนแรงเข้าไปทุกวี่ทุกวัน
ความรุนแรงจึงปรากฎให้เห็นๆนี่แหละ
คงจะตอบได้ไม่ยากแล้วสินะ ว่า "ทำไม" คนเราทุกวันนี้จึงรุนแรงนัก •
