เด็กๆ  มีอะไรให้เล่น  ก็สนุกได้ ไม่เรื่องมาก ตุ๊กตาตัวหนึ่ง  ชุดหม้อข้าวหม้อแกงชุดหนึ่งยางจักรยานเก่าๆ เส้นหนึ่ง ฯลฯ  ก็เพียงพอสำหรับสนุกสนานเพลิดเพลินได้ทั้งวัน
       ในหลายอย่างหลายชนิดที่ผมเคยเล่นมา  มีเครื่องเล่นอย่างหนึ่งที่ชอบเล่นมากคือ ไม้กระดกสมัยผมยังเป็นเด็ก  มักจะทำด้วยแผ่นกระดานหนา  มีแกนและฐานไม้เป็นตัวรองรับตรงกลางแผ่นเลือกเพื่อนที่มีน้ำหนักและรูปร่างพอๆ กัน  นั่งคนละข้าง ผลัดกันขึ้น ผลัดกันลง
       อยากจะแกล้งเพื่อน ก็นั่งกดกระดานไว้ให้เพื่อนลอยอยู่กลางอากาศสักพักใหญ่ จนเพื่อนเริ่มกลัวนั่นแหละ จึงค่อยปล่อยลงมา
       บางครั้งนึกอยากจะแกล้งกันให้แรง  เมื่อเพื่อนลอยอยู่ก็ลุกออกจากไม้กระดกเสียเฉยๆ เพื่อนก็หล่นลงมาพร้อมกับไม้กระดาน ก้นกระแทกพื้นระบมไปวันสองวัน
       เด็กก็ยังเป็นเด็กวันยังค่ำ  เล่นสนุกกัน แกล้งกัน  ทะเลาะกันโกรธกัน  แต่ก็ยังเป็นเพื่อนกันได้เสมอ
       ตอนเช้าแทบจะฟาดปากกัน  ตอนเย็นก็กอดคอไปดูหนังกลางแปลงด้วยกันแล้ว

       ไม้กระดานยังมีให้เห็นบ้างตามโรงเรียนอนุบาล  หรือตามสนามเด็กเล่น แต่มีเด็กไปเล่นไม่มากที่เล่นกันจะเป็นผู้ใหญ่เสียส่วนมาก  เล่นกันโดยไม่จำเป็นเฉือนกันในทุกด้าน

       ประเภทใครดีใครอยู่ ใครใหญ่ใครครอบครอง ใครเร็วใครได้ใครฉลาดใครชนะ ซ้ำร้ายเพื่อดีต้องทำให้อีกฝ่ายร้าย เพื่อใหญ่ต้องหาทางทำให้อีกฝ่ายเล็ก  เพื่อเร็วต้องวางแผนให้อีกฝ่ายช้า เพื่อฉลาดต้องใช้กลยุทธ์ให้อีกฝ่ายโง่

          มันจึงไม่ใช่การแข่งขันกันอย่างเดียวแต่เป็นการหักล้างทำลายกันไปในตัว

          การเล่นไม้กระดกจึงเป็นเกมที่เล่นกันทั้งวันจะมีผลงานได้  ต้องกดคนอื่นๆ ให้ต่ำไว้จะเลื่อนตำแหน่งได้  ต้องเหยียบคู่แข่งไว้ไม่ให้ได้ผุดได้เกิดจะมีหน้ามีตาได้ ต้องป้ายร้ายป้ายสีคนอื่นให้เละจะเป็นใหญ่ได้  ต้องเหยียบคนอื่นเป็นบันไดก้าวขึ้นไปจะร่ำรวยได้ต้องหาทางฉกชิงฉ้อโกงให้คนอื่นสิ้นเนื้อประดาตัวจะสำเร็จได้ต้องสร้างความล้มเหลวให้แก่ทุกคนที่อยู่ในแวดวงจะเป็นรัฐบาลได้ ต้องสาดโคลนพรรคอื่นให้มัวหมองจะสวยจะหล่อได้  ต้องเที่ยววิพากษ์วิจารณ์หน้าตาคนอื่นเช้ายันเย็น

          แล้วก็เล่นไม่กระดกกันทุกแห่ง ทุกเวลา ทุกสถานการณ์เล่นไม้กระดกสนุกหากรู้จักผลัดกันลง แต่ที่เล่นกันในสังคมมีแต่จะแย่งกันขึ้น และไม่ยอมลงมา ไม่ว่าอ้างมนุษยธรรม สิทธิมนุษยชนเพื่อนร่วมโลก ความซื่อสัตย์ ความจริงใจ น้ำใจความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ศีลธรรม...

       แล้วจากไม้กระดก  ก็เปลี่ยนไปเป็นเกมที่ขี่หลังเสือถ้าจะมาดูกันสักนิด  ก็จะเห็นว่า ไม่กระดกเป็นการละเล่นของคนที่ขาดความมั่นใจในตนเองและคุณค่าที่ตนเองมี
คนประเภทนี้จึงไม่ค่อยชอบมองตนเอง  แต่เที่ยวไปมองคนอื่นๆ แล้วก็มาเปรียบเทียบเปรียบเปรย

       คนอิจฉาตาร้อน  ไม่ใช่คนที่ไม่มีอะไรดี  แต่เป็นคนที่เที่ยวไปมองคนอื่น จนลืมเห็นความดีความสามารถในตนเอง
       อย่างที่ฝรั่งเขามักจะพูดกันว่า "ผลไม้ของเพื่อนบ้านใหญ่และอร่อยกว่าผลไม้บ้านตนเอง  สนามหญ้าเพื่อนบ้านเขียวกว่าสนามหญ้าบ้านตนเอง"
       เลยต้องคอยทำลายให้ของคนอื่นเขาเสียหาย จะได้ไม่ต้องรู้สึกทุกข์ใจเริ่มด้วยคำพูด หนักๆ ก็ลงไม้ลงมือ  หรือไม่ก็ว่าจ้างให้คนอื่นทำ
       การโกหกมดเท็จ  การใส่ความ การปั้นน้ำเป็นตัว  จึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนประเภทนี้
       การมอง การตัดสิน ก็พลอยเปลี่ยนไปด้วย
       เห็นความสุขของผู้อื่น กลายเป็นความทุกข์ของตนเห็นความสำเร็จของคนอื่น กลายเป็นความล้มเหลวของตนเห็นความสำเร็จของคนอื่น กลายเป็นความล้มเหลวของตนเห็นความก้าวหน้าของคนอื่นกลายเป็นการถอยหลังเข้าคลองของตน
       เด็กๆ เล่นไม้กระดกดูน่ารัก  แต่ผู้ใหญ่ที่เล่นไม้กระดกแบบนี้น่ากลัวเอามากๆ

 



-TOP-