
เปิดเทอมบ้านเราเป็นเรื่องใหญ่
สำหรับเด็กนักเรียนตัวเล็กตัวใหญ่
ต่างก็อัดอั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย
ตื่นเต้นกับชั้นเรียนใหม่โรงเรียนใหม่เพื่อนใหม่
ระคนความเสียดายวันหยุดที่ผ่านไปราวติดปีก
ถึงจะไม่ได้หยุดแบบเต็มพิกัดเพราะมีเรียนซัมเมอร์
แต่ก็ให้รู้สึกผ่อนคลายในหลายๆ แง่
อย่างน้อยไม่ต้องมีเครื่องแบบนักเรียนเป็นพันธนาการ
ใจให้รู้สึกได้ถึงความเป็นอิสระในรูปแบบหนึ่ง
หรือว่าชุดนักเรียนเป็นตัวแปรลดประสิทธิภาพการเล่าเรียน?
สำหรับผู้คร่ำหวอดวงการศึกษาเครื่องแบบเป็นเรื่องจำเป็น
นอกจากจะฝึกให้เด็กนักเรียนให้มีวินัยแล้ว
ยังเป็นการหลอมจิตสำนึกแห่งการสังกัดสถาบัน
กระทั่งเป็นความภาคภูมิผูกพันอวดโอ้
แต่สำหรับนักเรียนไม่น้อยมองเครื่องแบบเป็นเรื่องยึดติด
ส่งทอดกันมาจนกลายเป็นกรอบแห่งคุณค่า
ถือเป็นองค์ประกอบแห่งประสิทธิภาพการเรียน
อีกทั้งเป็นเงื่อนไขการมาเรียนและคะแนนความประพฤติ
ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว
เป็นการกำหนดกรอบความคิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
จนเด็กไม่กล้าคิดออกนอกกรอบไม่รู้จักริเริ่มสร้างสรรค์
แล้วเรียนรู้ก็เฉพาะที่ครูสอนครูถ่ายทอดให้
ไม่คิดจะใฝ่รู้ใฝ่หาใฝ่ค้นคว้าหาความรู้ทักษะเพิ่มเติม
เพราะถึงอย่างไรผลสำฤทธิ์การศึกษา
ยังคงวัดจากสิ่งที่ครูประสิทธิ์ประสาทให้ตลอดเทอมอยู่ดี
จึงไม่แปลกที่นักเรียนยังมีสมองและเวลาเหลือเฟือ
เที่ยวไปสนใจสิ่งที่ชอบสิ่งที่เป็นกระแสสิ่งที่พ่อแม่ห้าม
จนกลายเป็นความหมกมุ่นและพึงพอใจ
ในเมื่อระบบการเรียนการสอนในโรงเรียน
ยังไม่ท้าทายความสามารถพลังเรียนรู้ของนักเรียนเพียงพอ
นอกจากเนื้อหาหลายวิชาไม่น่าสนใจแล้ว
วิธีการสอนของครูยังน่าเบื่อหน่ายอีกต่างหาก
เด็กจึงต้องมองหาสิ่งท้าทายความรู้ความสามารถนอกระบบ
พร้อมกับทุ่มเทเวลาพลังกายพลังสมองกับสิ่งเหล่านี้อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย
ในขณะที่แต่ละนาทีในห้องเรียนผ่านไปเชื่องช้า
เสียแรงเสียพลังไปกับความตั้งใจพยายามไม่วอกแวก
ไม่คุ้มกับความรู้ที่ได้มาในแต่ละคาบ
สำหรับพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลายคน
คำถาม ทำไม ของเด็กเป็นเรื่องน่ารำคาญ
แต่หากมองเข้าไปให้ถึงแก่น
ทำไม เป็นมากกว่าคำถามอยากรู้อยากเห็น
หากแต่เป็นตัวบ่งบอกว่าสิ่งที่พ่อแม่ครูอาจารย์พร่ำสอนนั้น
ยังไม่เพียงพอสำหรับศักยภาพแห่งการเรียนรู้อย่างไม่รู้จบของเด็ก
นอกนั้น หลายคนยังมองว่าชุดนักเรียนเป็นเกราะแห่งพฤติกรรม
แต่งเครื่องแบบแล้วทำให้เด็กประพฤติได้สอดคล้อง
ชุดนักเรียนจึงกลายเป็นตัวควบคุมกิริยามารยาทการพูดการจา
อีกทั้งเป็นมาตรฐานความดีความเหมาะสมความผิดความถูก
แทนที่จะเป็นจิตใจมโนสำนึกแห่งจริยธรรมจรรยาบรรณ
จึงวัดกันที่พฤติกรรมภายนอกช่วงที่อยู่ในโรงเรียน
มากกว่าจะคำนึงถึงความตระหนักยึดมั่นจริงจัง
เรียบร้อยทั้งในโรงเรียนและดีทั้งนอกโรงเรียน
น่ารักน่าชื่นชมทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ
จริงๆแล้วก็คงอย่างที่ฝรั่งพูดกันนั่นแหละ
ไม่ใช่ชุดที่ทำให้คนที่สวมใส่กลายเป็นผู้ทรงศีล •