ดูกันผิวเผิน
ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคมยังดูเป็นปกติ
ผู้ใหญ่คร่ำเครียดกับหน้าที่การงาน
เด็กๆ ต่างจริงจังกับการเล่าเรียนเขียนอ่าน
วันอาทิตย์วันหยุดนักขัตฤกษ์ก็ถือโอกาสพักผ่อน
ศูนย์การค้าห้างร้านแบกับดินตลาดนัดยังคึกคัก
ซื้อขายอาจไม่มากแต่เดินดูเดินชมมีตลอด
ข่าวสารบ้านเมืองก็ติดตามกันพอเป็นกษัย
ไม่อยากรู้จริงรู้ลึกให้ต้องกระทบอารมณ์
ก่อนนี้มีการ นำเสนอ ข่าว ให้ ข้อมูล
แต่เดี๋ยวนี้ เล่น ข่าวไม่ต่างกับเล่นพรรคเล่นพวก
ทำให้ใจต้องไขว้เขวสับสนจนขาดความเป็นกลาง
ทั้งที่ไม่ตั้งใจไม่อยากถือข้างถือฝ่าย
ไม่วายถูกดึงเข้าสู่กระแส การเมือง ไปทุกเรื่อง
เอาไปเอามาการเมืองเข้าไปพัวพัน การบ้าน
ดึงเรื่องส่วนตัวเข้าไปเป็น การเมือง
ดึงการเมืองเข้าไปเป็นประโยชน์ การบ้าน
สร้างความแตกร้าวความขัดแย้งขึ้นในชาติบ้านเมืองจนได้
แถมยังกระทบเข้าถึงแก่นกลางครอบครัวเล็กใหญ่
เหมือน คลื่นอารมณ์ ซัดโถมเข้ามาลูกแล้วลูกเล่า
ก่อให้เกิดความรุนแรงทั้งโดยตรงและพลังเฉื่อย...
มูลนิธิเพื่อนหญิงเปิดเผยข้อมูลของศูนย์
ยืนยัน คลื่นอารมณ์ ที่กำลังโถมกระแทกครอบครัว
โดยเฉพาะเด็กและสตรีที่เปราะบางอ่อนแอกว่าโดยธรรมชาติ
ถูกทำร้ายมารักษาที่โรงพยาบาลในปีที่ผ่านมา
จำนวน 26,565 คนหรือเฉลี่ยวันละ 73 ราย
หรือหนึ่งรายในทุกยี่สิบนาที
เป็นตัวเลขที่น่าตกใจน่าวิตก
สำหรับสังคมยุคนี้ยุคอารยธรรมยุคศิวิไล
ทว่าในความเป็นจริงแล้ว
ตัวเลขที่ไม่ได้แจ้งไม่ได้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
คงมีมากกว่านี้แน่นอน
เพราะคนกระทำคือคนใกล้ชิด
สามีและคนในครอบครัวกว่าร้อยละแปดสิบ...
ในกระแสวัตถุนิยมบริโภคนิยม
วัตถุสิ่งของเครื่องใช้ไม้สอยมีมากจนเลือกไม่ถูก
นอกจากมีไว้ใช้ไว้อำนวยความสะดวกแล้ว
ยังมีไว้บ่งบอกฐานะกำหนดบารมีชี้บอกศักดิ์ศรีด้วย
วัตถุสิ่งของอีกทั้งทรัพย์สินสมบัติจึงมีค่าเกินตัว
อีกทั้งมีความสำคัญมากกว่าที่คิด
คุณค่าด้านจิตใจจึงถูกมองข้ามไป
ความมีใจต่อกันและกันค่อยๆมีน้อยลง
ความรักความจริงใจความเอาใจใส่ทะนุถนอมเป็นเรื่องรอง
เยื่อใยที่มีต่อกันก็อยู่แค่ความเหมาะสมผลประโยชน์
แค่ถูกขัดใจเกินหน้าเกินตาไม่สบอารมณ์อิษฉา
ก็สามารถเป็นชนวนจุดความรุนแรงขึ้นมาได้ทุกเมื่อ
ความรุนแรงในคำพูดคำจา
ความรุนแรงในความคิดทัศนคติ
ความรุนแรงในท่าทีปั้นปึ่งเง้างอนเรียกร้อง
ความรุนแรงในอากัปกิริยาลงไม้ลงมือ...
จำนวนตัวเลขทั้งที่แจ้งและไม่แจ้งคงเพิ่มขึ้นเรื่อย
ตราบใดที่จิตใจยังไม่กลับมาเป็นใหญ่...ในทุกความสัมพันธ์ •
