เป็นคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้ลำบากไม่เบา
       นอกจากต้องกังวลค่าเลี้ยงดูและค่าเล่าเรียนของลูกแล้ว
        ยังต้องห่วงถึงสภาพแวดล้อมที่ลูกเติบโตขึ้นมาอีกด้วย

       หนักเข้าถึงขนาดถอดใจ เฝ้าถามตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า
       "ทำไมพ่อแม่เราจึงเลี้ยงลูกได้ตั้งหลายคน…ไม่เห็นต้องลำบากยากเข็ญเหมือนเรา
ที่มีลูกแค่คนสองคนเลย…"
       บางทีเป็นเพราะค่าใช้จ่ายไม่สูงเหมือนทุกวันนี้
       บางทีพ่อแม่ทุ่มเทให้ลูกกว่าพ่อแม่สมัยใหม่
       บางทีพ่อแม่มีเวลาให้ลูกมากกว่า…
       เป็นตัวแปรต่างๆที่ทำให้เกิดความแตกต่าง
        แต่ที่น่าจะเป็นตัวแปรสำคัญคือสภาพแวดล้อม
       พ่อแม่สมัยก่อนอาจจะต้องออกเรี่ยวออกแรงทำมาหากินเพื่อเลี้ยงปากท้องลูกหลายคน
       แต่ก็เป็นแค่เรื่องปากเรื่องท้องเรื่องการเล่าเรียน…
       หาต้องหนักอกหนักใจกับสภาพแวดล้อมอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ไม่
        ดูแลร่างกายนั้นไม่ยากเท่ากับการดูแลจิตใจ
       และนี่น่าจะเป็นความลำบากยากเข็ญของพ่อแม่ยุคนี้
       เพราะขณะที่ต้องพ่อเป็นแม่ ต้องเป็นทั้ง เพื่อน คนแรกของลูกด้วย
       ต้องมีเวลาคลุกคลี เพื่อไม่ให้ลูกเหงา โดดเดี่ยว
       ต้องพร้อมที่จะพูดคุย เพื่อลูกได้ซักถาม หรือแค่ระบาย
       ต้องกลับเป็นเด็ก เพื่อเล่นกับลูกตามระดับวัย
       ต้องย้อนยุค มาสนใจในสิ่งที่ลูกให้คุณค่า
       ต้องไปเดินห้าง ในแผนกที่ลูกชอบ
       ต้องฝึกกินอาหารที่ลูกโปรด ทั้งๆที่รู้สึกขัดแย้งในประโยชน์
       ต้องดูรายการโทรทัศน์ ที่ส่วนตัวแล้วมั่นใจว่าเป็นแค่น้ำเน่า
       ต้องฝึกร้องเพลง เพื่อจะได้ร้องคาราโอเกะกับลูก แม้ไม่เห็นความไพเราะ หรือแม้ทำนองเพลง
       ต้องแต่งตัวตามรสชาติและรสนิยมของลูก แม้ต้องกระชากวัยครั้งแล้วครั้งเล่า
       ต้องกลัดกลุ้มไปกับลูก ทั้งๆที่เป็นเรื่องจิ๊บจ้อยในสายตาผู้ใหญ่
       ต้องนั่งทำการบ้านกับลูก ตามวิธีการที่ลูกบอก ทั้งๆที่เห็นคำตอบแล้ว…
       สิ่งเหล่านี้และอื่นๆ ที่พ่อแม่สมัยก่อนไม่ต้องทำ
       พี่น้องที่คลานตามกันมาหลายคนทำได้ดีกว่าเป็นไหนๆ
       แถมวัยก็ไม่ต่างกันมากนัก
       จึงน่าเห็นใจ ที่พ่อแม่ยุคนี้หลายคนไม่สามารถ "เป็นเพื่อน"  ลูกได้ในทุกเรื่อง
       ทั้งๆที่พยายามกันนักพยายามกันหนาแล้ว
       กระนั้นก็ดี ความเป็นเพื่อนลูกอันหนึ่งที่ขาดเสียไม่ได้
         คือความเป็นเพื่อนในมิติสังคม
       ในเมื่อลูกไม่มีพี่ไม่มีน้องที่ช่วยสร้างมิติสังคมให้
       คุณพ่อคุณแม่ต้องทำให้เกิดขึ้นมา…ในฐานะที่ครอบครัวเป็นสังคมแรกของลูก
       …ให้ลูกสำนึกว่า นอกจากตัวเขาแล้ว ยังมีคนอื่น
       …ให้ลูกรู้ว่า นอกจากจะคิดถึงแค่สิ่งที่ตนต้องได้แล้ว ยังมีสิ่งที่ต้องให้ด้วย
       …ให้ลูกเห็นว่า นอกจากจะเอาแต่ตามใจตนแล้ว ยังต้องตามใจคนอื่นด้วย
       …ให้ลูกเข้าใจว่า นอกจากจะมีสิทธิแล้ว ยังมีหน้าที่ด้วย
       …ให้ลูกยอมรับว่า นอกจากจะพยายามเอาชนะให้ได้แล้ว ยังต้องรู้จักแพ้ด้วย…
       หรือจะพูดอีกนัยหนึ่ง ลูกเรียนรู้มิติสังคม จากการความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัว…ในครอบครัว นั่นเอง
       มิติที่เลยจากความเป็นพ่อแม่-ลูก ไปสู่ความเป็น เพื่อน-เพื่อน
       บทบาทหนักหน่วงเอาการ ที่พ่อแม่ยุคนี้ต้องเล่น…ให้สำเร็จ•

 



-TOP-