
น่าดีใจกับเด็กยุคนี้
อาหารการเลี้ยงดูดีขึ้นมาก
ไหนจะอาหารเสริมครบหมู่ครบเหล่า
ไหนจะหยูกยาสุขภัณฑ์สะอาดถูกหลักอนามัย
ไม่ต้องพูดถึงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย
มีทั้งหลากหลายทั้งทุกขนาดทุกราคา
ของเล่นก็มีให้เลือกได้ทุกรูปแบบ
จนยากจะตัดสินใจแบบรักพี่เสียดายน้อง
ส่วนเด็กแต่ละคนจะได้มากได้น้อย
ขึ้นอยู่กับคุณพ่อคุณแม่
โดยฐานะการงานการเงินของครอบครัวเป็นตัวแปร
วิจารณญาณของพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นหลัก
และความเข้าใจของลูกเป็นตัวเสริม
น่ายินดีกับเด็กยุคนี้
ข้อมูลข่าวสารสาระความรู้มีมากหลายหลาก
กระตุ้นสมองเด็กให้พัฒนารวดเร็วขึ้น
ก่อนนี้เคยพูดถึงความรู้รอบตัว
ที่เด็กต้องขวนขวายเรียนรู้ให้มากให้ทันคน
เดี๋ยวนี้กลายเป็นรอบตัวมีแต่ความรู้ทั้งนั้น
เด็กแทบไม่ต้องขวนขวายเหมือนก่อน
หากแต่ต้องเลือกต้องสรรต้องกรองต้องวินิจฉัย
โดยมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ช่วยแนะช่วยนำ
ความเข้าใจและความใกล้ชิดเป็นตัวแปร
และใจเปิดกว้างเป็นหลัก
ความสัมพันธ์พ่อแม่และลูกจึงเปลี่ยนไป
ก่อนนี้พ่อแม่เป็นหลักในทุกเรื่อง
พูดคำไหนคำนั้น
ลูกที่ดีต้องนบนอบเชื่อฟังทุกอย่าง
พ่อแม่เป็นผู้ให้กำเนิดเลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่ออก
ลูกที่ดีต้องกตัญญูบูชาเป็นพระคุณที่สอง
พ่อแม่อาบน้ำร้อนมาก่อน
ลูกที่ดีต้อง เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด
แต่เดี๋ยวนี้ต้องมีต้องใช้เหตุผล
ทั้งในการอบรมสั่งสอนตักเตือนว่ากล่าว
ทั้งในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
พร้อมทั้ง เอาใจเขามาใส่ใจเรา
ซึ่งจะนำไปสู่ความเข้าใจและความตระหนัก
การเห็นด้วยและการคล้อยตามก็ตามมาไม่ยาก
ในยุคแห่งความรวดเร็วทันใจ
การพูดคุยให้เหตุให้ผลคงไม่ง่ายนัก
ยิ่งเวลาจะอยู่ด้วยกันมีน้อยลงไปทุกวัน
เลยเกิดแนวโน้มหวังผลเฉียบพลันเฉียบขาด
ทั้งพ่อทั้งแม่ทั้งลูกทั้งครูทั้งศิษย์
กระทั่งกลายเป็นความขัดแย้งและแตกแยก
ต่างฝ่ายต่างถือว่ามีเหตุผล
แต่ไม่เคยรับรู้เหตุรับรู้ผลร่วมกัน
บวกกับทิฐิ อย่านึกว่าฉันกินหญ้านะ
การเสวนาแต่ละครั้งก็จบรวดเร็วทันใจ
แต่เรื่องยังคงคาใจคุกรุ่นเหมือนภูเขาไฟ
รอแค่เวลาพ่นลาวาร้อนออกมาอย่างเดียว
ถึงจะอยู่ใกล้เห็นหน้าค่าตากันทุกวัน
แต่ใจความคิดความรู้สึกห่างไกลลิบลับ
เมื่อต่างฝ่ายต่างคิดว่าตนถูก
เลยกลายเป็นผิดทั้งคู่... โดยปริยาย •