พ้าสต้าอิตาเลียนจานใหญ่ หอมกรุ่น วางอยู่ข้างหน้า
หัวกุ้งตัวเขื่องมากด้วยไข่วางเด่นอยู่กลางจาน
เส้นพ้าสต้าที่เคยขาวแกมเหลืองแก่ๆ
บัดนี้ฉ่ำด้วยน้ำซอสมะเขือเทศชนิดดี
ปนกับเนื้อกุ้งที่แกะออกเป็นชิ้นพอเหมาะ
“ใครว่าเลิกบุหรี่ยาก ผมไม่เชื่อ...”
เจ้าภาพชวนคุย เปลี่ยนหัวข้อที่พูดคุยกันมาตั้งแต่เริ่มออร์เดิฟ
น้ำเสียงจริงจังประสาคนจริงใจ
“ก่อนนี้ ผมสูบวันละสามซองเป็นอย่างต่ำ
เรียกว่าอดข้าวได้ แต่อดบุหรี่เป็นไม่ยอมเด็ดขาด...”
พูดไป ทำมือไม้ประกอบไป
เหมือนต้องการจะตอกย้ำให้เห็นจริง
“จนกระทั่งวันนั้น...  ยังจำได้แม่นยำ
ผมขนนมสดจากฟาร์มไปส่งให้บริษัทรับซื้อ
ก็มาส่งกันหลายเจ้า...มากบ้าง น้อยบ้าง
จู่ๆไอ้เด็กหนุ่มที่มีหน้าที่รับนมตะโกนเสียงดัง
‘ใครสูบบุหรี่วะ...บอกว่าอย่าสูบ อย่าสูบ...
กลิ่นบุหรี่มันจะทำให้กลิ่นนมเสียหมด...’
ผมสะดุ้ง ยืนหน้าชา เท้าขยี้บุหรี่จนแหลกละเอียด
จริงๆแล้ว เขาไม่เห็นผมสูบบุหรี่หรอก
แต่ผมสิครับ รู้สึกละอายขึ้นมาจับใจ
อายที่ถูกเด็กมันด่า...เด็กรุ่นลูกแท้ๆ
มันให้รู้สึกเสียศักดิ์ศรีอย่างบอกไม่ถูก
แทบจะไม่เหลือศักดิ์ศรีอีกเลย ว่างั้นเถอะ...”
สุ้มเสียงเต็มด้วยอารมณ์เหมือนย้อนรอยกลับ
จนเด็กเสิร์ฟพากันแอบชำเลืองมอง
“ผมตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเอง เลิกสูบบุหรี่เด็ดขาด
เพราะถือว่ามันทำให้ผมเสียศักดิ์ศรีอย่างไม่เป็นท่า
กลับมาบ้านก็ทิ้งบุหรี่ที่เหลือไปอย่างไม่ใยดี
แล้วก็ไปที่ร้านซื้อใหม่ซองหนึ่ง...”
เสียงหัวเราะขบขันแบบงงๆของคนร่วมโต๊ะ
ตั้งตัวกันแทบไม่ทันกับจุดหักมุมของเรื่อง
“เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งหัวเราะเยาะ...
เลิกสูบบุหรี่ไม่ยาก แต่หลังจากนั้นสิเป็นเรื่อง
มือจะล้วงกระเป๋าเสื้อโดยอัตโนมัต
ก็ของมันเคยนี่นา...คว้าบุหรี่ซองใหม่นั้นออกมา
พอมือจะแกะซอง สมองก็แว้บไปที่คำด่าของเด็กหนุ่มคนนั้น
...เสียศักดิ์ศรี  เสียศักดิ์ศรี เสียศักดิ์ศรี...
ก็เลยเอาบุหรี่ใส่กระเป๋าเสื้อไว้เหมือนเดิม
จนเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ...”
สีหน้าที่จริงจังเปลี่ยนเป็นยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“พอเลิกบุหรี่ได้ ก็เลิกเหล้าได้ด้วย
ก่อนนี้ทั้งวิ้สกี้ ทั้งคอนหญัก...แทบจะดื่มแทนน้ำก็ว่าได้
ดื่มไป สูบบุหรี่ไปด้วย...อร่อยอย่าบอกใคร
พอเลิกบุหรี่ ดื่มเหล้าก็ไม่อร่อยเหมือนก่อน
เลยเลิกดื่มไปโดยปริยาย...”
พูดเสร็จก็ตักกะท้อนลอยแก้วเข้าปาก ใบหน้าชื่นมื่น
ปล่อยให้คนร่วมโต๊ะต้องขบคิดหนัก
จะมีสักกี่คนหนอที่รักในศักดิ์ศรีแบบเขาบ้าง?
หวงแหนศักดิ์ศรีจนพร้อมจะเลิกทุกอย่างที่ทำให้หมดศักดิ์ศรี
เออ... ถ้ารักศักดิ์ศรีกันให้มากกว่านี้
สังคมคงไม่เป็นอย่างที่เห็นทุกวันนี้...แน่นอน

 



-TOP-