
ไปร้านตัดผมแต่ละครั้ง เจอกับช่างผมหลากหลายประเภท
บางคนก็ก้มหน้าก้มตามตัดผม ไม่พูดไม่จา
ชวนคุยได้คำสองคำแล้วผมก็ปิดตา ทำเป็นหลับ
ไม่อึดอัดทั้งคนตัด ไม่อึดอัดทั้งคนถูกตัด
บางคนก็พูดไม่หยุด ตัดไปพูดไป แถมใส่อารมณ์เสร็จสรรพ
แค่พูดถึงฟุตบอลไทยที่แพ้อย่างไม่เป็นท่า แกเดือดดาลอย่างเห็นได้ชัด
กรรไกรที่ซอยผมอยู่เร่งจังหวะไปพร้อมกับการบรรยาย
ฉับ ฉับ ฉับ
จนผมต้องนั่งเกรง กลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอแสนจะฝืด ปากก็เออออทำเป็นเห็นด้วย ร่วมความเดือดดาลไปกับแก
อย่างเลี่ยงไม่ได้
ส่วนใจนั้นภาวนาขอให้แกสงบอารมณ์ลงบ้างตอนที่หยิบมีดโกน เริ่มโกนไปตามคอ ด้านหน้าแล้วก็ด้านหลัง
กกหู ใบหน้า คาง
พอแกเอาผ้าขนหนูปิดไหล่ออก ก็ให้รู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก เผลอถอนหายใจเสียงดังจนลืมมารยาท
หลังเสื้อแฉะด้วยเหงื่อ ทั้งๆที่นั่งห้องแอร์เย็นฉ่ำ
ไม่เคยสบายใจเมื่อต้องจ่ายเงินเท่ากับครั้งนั้นเลย
บางคนก็เฉยๆ พอชวนคุยเข้าหน่อย ถูกคอ เลยใช้เวลาตัดผมเสียนาน
ลงท้ายนวดไหล่ นวดแขน หักนิ้ว พนมมือเคาะหัวเคาะหน้าผากแถมให้อีกต่างหาก
แต่สิ่งหนึ่งที่มักจะทำเหมือนกันหมดคือ ถามความประสงค์ของลูกค้า
ตัดทรงอะไรดีครับ?
ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะมีทรงผมที่นิยมของตนอยู่แล้ว
ก็เลยเป็นความสบายใจสำหรับช่างผม ตัดไปตามคำสั่ง ไม่ต้องกังวลว่าจะเหมาะดีหรือไม่
แต่ก็มีลูกค้าบางคนให้ช่างช่วยคิดช่วยตัดสิน
ตัดทรงไหนให้เข้าบุคลิกก็แล้วกัน
ให้ดูดีที่สุดเป็นใช้ได้
ช่างดูจะพึงพอใจ เพราะนอกจากจะรู้สึกได้รับความไว้วางใจแล้ว ยังสามารถทำในสิ่งที่ดีที่สุด
สำหรับลูกค้า
ผมก็เป็นคนหนึ่งในจำนวนลูกค้าประเภทที่สองนี้
เพราะเชื่อใจว่า ช่างผมคือคนที่รู้ดีว่าตัดทรงไหนจึงจะดึงสิ่งที่ดีที่สุดของผมออกมา
ไว้บนหัวผมเอง
คนเราจริงๆแล้ว เห็นตัวเองได้ก็เฉพาะด้านหน้าและด้านหลัง จากกระจกเงา
แต่ไม่สามารถจะเห็นภาพรวมของตัวเราได้ทุกแง่ทุกมุม
ในเวลาเดียวกัน
บางอย่างที่มองว่างดงามตามที่กระจกเงาสะท้อนให้เห็น อาจจะดูไม่เอาไหนเลยในภาพรวม
และคนเราชอบเน้นเฉพาะบางส่วนเสียด้วย
แต่งหน้าก็จะแต่งให้เลิศ โดยไม่ดูว่ารับกับทรงผม รูปร่าง
หรือไม่
ตัดผมทำผมก็เน้นแค่ทรงผมที่กำลังฮิต โดยไม่คำนึงสัดส่วนอื่นๆว่าเข้ากันได้หรือไม่
ทรงผมหนึ่งดูเก๋บนหัวหนึ่ง แต่อาจจะดูน่าขำบนอีกหัวหนึ่งก็ได้
แม้กระทั่งท่าทางการเดินเหิรก็เป็นตัวแปรสำคัญไม่น้อยทีเดียว
บางอย่างดาราหรือนางแบบเขาแต่งเขาใส่ดูงดงามกลมกลืนแลเท่ห์มีเสน่ห์
คนอื่นก็พากันเลียนแบบมาแต่งมาใส่บ้าง คิดว่าผลจะออกมาเหมือนกัน
แต่นอกจากจะไม่งดงามไม่เท่ห์ไม่มีเสน่ห์แล้ว ยังกลายเป็นตัวตลกไปโดยไม่รู้ตัว
จนหลายคนเห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะว่า (ในใจ) ไม่เจียมตัวเสียเลย
เกิดมาผมสวยดกดำ ใช้ยาสระผมอะไรก็เป็นเงางามอยู่แล้ว
ส่วนคนที่ผมไม่สวย จะใช้ยาสระผมที่นางแบบโฆษณาเขาใช้กี่ยี่ห้อ ก็คงต้องเสียเงินเปล่า แล้วยังต้องมาเสียความรู้สึกอีก
ที่จริงแล้ว พระเจ้าท่านสร้างแต่ละคนมามีความงดงามของตนเองอยู่แล้ว
เคล็ดลับอยู่ในการที่จะดึงจะเน้นความงดงามนั้นออกมาได้อย่างไร ได้มากน้อยแค่ไหน ให้ดูลงตัวที่สุด
เท่านั้นเอง
เพราะความงดงามนั้นเป็นแค่นามธรรม และไม่มีใครสามารถกำหนดมาตรฐานความงดงามสากลขึ้นมาได้
ดาราและนางแบบมีไว้ไม่ใช่เพื่อ ลอกเลียนแบบ แต่น่าจะเป็น แบบอย่าง ของการรู้จักดึงความงดงามที่มีอยู่ในแต่ละคนให้เด่นออกมา เป็นความลงตัวที่มีเสน่ห์ต่างหาก •