วลน้ำยังคงไหลไปตามธรรมชาติของมัน
จากที่สูงลงสู่ที่ต่ำหากไม่มีการผันการกั้นการกัก
ถึงจะมีเครื่องสูบยักษ์ก็ได้แค่ทำให้น้ำไหลเร็วขึ้น
น้ำไหลท่วมไหลบ่าเข้าบ้านเข้าเรือนก็แย่มากแล้ว
แม้จะเก็บข้าวของขึ้นชั้นบนอพยพไปไว้ที่อื่น
ก็ยังต้องลำบากลำบนเหนื่อยกายเหนื่อยใจ
ที่ผ่านมาแล้วผ่านไปก็ทิ้งร่องรอยเสียหายไว้ระดับหนึ่ง
แต่ที่ผ่านมาแล้วไม่ยอมผ่านไปนี่สิทั้งเป็นปัญหาทั้งเสียหาย
น้ำที่ไหลมาใช่ว่าจะมาจากแม่น้ำลำคลองหรือจากฝน
แต่เป็นน้ำที่ผ่านที่อื่นมาตั้งแต่ต้นน้ำนั่นแหละ
นำทั้งความเปียกแฉะนำทั้งความสกปรกที่สะสมมาตามรายทาง
น้ำเข้าบ้านก็เหมือนขยะมูลฝอยความสกปรกเข้าหมักหมม
ไม่ต้องพูดถึงบรรดาแมลงสัตว์ป่าสัตว์เลี้ยงที่หนีตายมา
พอมีที่หลบภัยหลบน้ำก็พากันยึดพื้นที่ไม่คิดเกรงใจใครในยามนี้
บ้านที่เคยกวาดเคยเก็บเคยถูกเช้าเย็นแทบไม่เหลือร่องรอยให้เห็น
กลายเป็นที่ทิ้งขยะเป็นแหล่งมั่วสุมของนานาสัตว์เล็กสัตว์น้อย
ยังไม่พอยังต้องเสียดายต้องกังวลกับพื้นทรุดผนังผุ
น้ำเข้าบ้านยังไม่พองานยังเข้าอีก
แล้วนั้นยังต้องเป็นห่วงเป็นใยญาติพี่น้องเพื่อนฝูง
คนที่น้ำยังไปไม่ถึงก็กังวลคนที่น้ำท่วม
กลัวว่าจะอดข้าวอดน้ำไปไหนมาไหนลำบาก
คนที่น้ำท่วมอยู่ก็หวั่นวิตกถึงคนที่น้ำจะท่วม
ไม่อยากให้ต้องลำบากลำบนเหมือนที่กำลังทุกข์ทนกันอยู่
ติดต่อกันทีก็พากันซักไซร้ไถ่ถามรายละเอียด
ที่ท่วมแล้วก็ถามที่ยังไม่ท่วม “น้ำท่วมยัง?”
ตามด้วยคำถามแกมกำชับ “ตุนน้ำตุนอาหารไว้ยัง?”
ที่ยังไม่ท่วมก็ถามที่ท่วมแล้ว “น้ำลดยัง?”
ตามด้วยคำถามแกมเป็นห่วง “ยังมีน้ำมีอาหารพอเปล่า?”
แทบไม่มีที่เหลือให้ทักทาย “สวัสดี” กันเหมือนก่อน
แต่ก็เป็นคำทักทายเข้าถึงทุกข์เข้าถึงสุขมากว่าแยะ
เหมือนก่อนที่เจอหน้าก็ทัก “กินข้าวยัง?”
ตามด้วยคำเชิญชวนรบเร้า “เข้ามากินอะไรก่อนสิ”
ถ้ายืนยันกินข้าวเรียบร้อยแล้วก็ “แวะกินหนมก่อน”
เห็นผ่านหน้าบ้าน “ไปไหนมา?”
ตามด้วยคำคุ้นหู “แวะกินน้ำนั่งเล่นก่อนสิ”
เหมือนจะบอกว่าไปมาคงมีธุระปะปัง
มีอะไรช่วยได้ก็ยินดีนะคนกันเอง
หรือว่าน้ำท่วมครั้งนี้จะนำ“น้ำจิตน้ำใจ”คืนให้สังคมไทย
ที่ในภาวะปกติต่างคนก็ต่างอยู่
อย่างมากก็ได้แต่รับรู้ว่าทุกข์บ้างสุขบ้างตามครรลองชีวิต
ฉันทุกข์ฉันสุขเรื่องนี้คุณทุกข์คุณสุขเรื่องนั้น
ปัญหาฉันเรื่องนี้ปัญหาคุณเรื่องนั้น
สุดท้ายแล้วก็เป็นเรื่องตัวใครตัวมัน
แต่พอเจอทุกข์เจอลำบากเจอปัญหาเดียวกันทั่วหน้า
ก็เริ่มหันมาสนใจกันเข้าใจกันเห็นอกเห็นใจกัน
ประสาคนลงเรือลำเดียวกันรอดก็รอดด้วยกันจมก็จมตามกัน
ดังที่เห็นคนไทยร่วมจิตร่วมใจเผชิญหน้าอุทกภัยครั้งนี้...

จะว่าไปแล้วแม้แต่ในเหตุการณ์เลวร้ายก็ยังมีประกายความดีอยู่
เพราะไม่มีอะไรที่เลวร้ายไปหมดดีไปหมด
ขึ้นอยู่กับการมองเหตุการณ์นั้นๆได้ครบองค์หรือไม่
และนี่คือที่มาของ “มองโลกแง่ร้าย” หรือ “มองโลกแง่ดี”
ที่ส่งผลถึงความนึกคิดการเลือกการตัดสิน...การดำเนินชีวิต  •

 



-TOP-