
เดือดร้อนกันทั่วหย่อมหญ้า เพราะสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่นี้
ตั้งแต่อาหารการกิน เสื้อผ้า เครื่องใช้ไม้สอย น้ำมัน
ไปจนกระทั่งการเดินทาง
แล้วก็กลับมาสู่ ยุครัดเข็มขัด กันอีกครั้ง
ทว่าครั้งนี้ไม่เพียงแค่ รัดเข็มขัด กางเกง อย่างเดียว ยังต้อง รัดเข็มขัด เมื่อขับรถด้วย
เอาไปเอามาคงต้องรัดเข็มขัดแบบครบวงจรเสียแล้ว
หลายคนให้ข้อสังเกตว่า รถราที่วิ่งอยู่ตามท้องถนนบางตาไปถนัด
หรือจะเป็นมาตรการอย่างหนึ่งของการแก้ไขปัญหาจราจรของรัฐบาลชุดนี้?
ห้างร้านต่างประโคมโฆษณา ขายสินค้าราคาถูก
ซึ่งดูเหมือนจะให้ความเห็นใจผู้บริโภคเป็นอย่างมาก
แต่สินค้าที่ว่าราคาถูกตอนนี้ ก็เป็นสินค้าราคาแพงก่อนที่จะมีการขึ้นราคานั่นเอง
จะพูดกันให้ถูกแล้ว มันก็สินค้าราคาแพงเหมือนเดิม จะต่างกันก็ตรงที่ว่า แพงตอนนั้นกับแพงตอนนี้
เท่านั้นเอง
ครั้นจะหวังพึ่งรัฐบาลให้ช่วยแก้ไข ก็คงต้องร้องเพลง รอ ไปหลายจบ
เพราะรัฐบาลมัวแต่ใช้เวลาแก้ไขปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาล
จนแทบไม่มีเวลาเหลือสำหรับชาติบ้านเมืองอยู่แล้ว
แก้ไขไปได้อย่าง ก็โล่งอก ชวนกันออกไปตีก๊อฟ
ยามชาติบ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ผู้บริหารยังมีกะจิตกะใจชวนกันไปตีก๊อฟได้อย่างสบายอกสบายใจ
แทนที่จะวิ่งเต้นหาลู่ทางคลี่คลายความเดือดร้อนของประชาชนตาดำๆ
อย่างนี้พูดได้เลยว่า ไม่ อิน กับความทุกข์ยากของชาติบ้านเมืองเลยแม้แต่น้อย
เราท่านก็คงต้องพึ่งตนเอง หาทางแก้ไขปัญหาให้รอดไปวันๆเสียแล้ว
ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ กระบวนการ รีไซเคิล คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
เริ่มตั้งแต่เครื่องใช้ไม้สอย ไปจนถึงเครื่องแต่งกาย
ถึงเวลาที่ต้องไปดูในห้องหรือในตู้เก็บของกันให้ถี่ถ้วนเสียที
ของบางอย่างที่เคยใช้ได้ แล้วต้องเก็บทิ้งไว้เพราะมีของใหม่น่าใช้มาแทนที่
คงต้องนำกลับออกมาใช้ โดยเน้นประโยชน์ มากกว่าที่จะคิดแค่ความเท่ห์ความหรูเท่านั้น
เสื้อผ้าที่อยู่ด้านในของตู้ มีหลายตัวที่ยังใช้ได้ดี แต่ถูกเก็บไว้เพราะไม่ทันสมัย
สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ใครคิดจะแต่งตัวเน้นความหรูหรา ทันแฟชั่น
คงต้องถูกมองเป็นตัวประหลาดไป
ดีไม่ดีถูกว่าลับหลังว่า ดัดจริต คิดทำลายชาติเพราะไม่รู้จักประหยัด
เชื่อเถอะ คนบุคลิกดีใส่เสื้อผ้าอะไรก็ดูดีไปหมด ในทางตรงข้ามคนไม่มีบุคลิกจะนุ่งจะแต่งเสื้อผ้าราคาแพงขนาดไหน ก็ดูไม่เข้าตาอยู่ดี
ทำนองเดียวกันกับเครื่องประดับกาย
คนบุคลิกดีแม้ใส่ของปลอมก็เหมือนของจริง ส่วนคนไม่มีบุคลิกแม้ใส่ของแท้ทั้งตัวมองอย่างไรก็เหมือนปลอมอยู่ดี
ต่อให้อมพระพูดยืนยัน ก็ยากจะเชื่อตาม
สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ คงทำให้เราท่านต้องหันมาดูคุณค่าแท้จริงกันเสียที
ก่อนนี้ เรามัวแต่สร้างคุณค่ากันด้วยเงินทองข้าวของ
ราวกับว่า ยิ่งมีสิ่งเหล่านี้มากก็ยิ่งจะมีคุณค่ามาก
แต่เดี๋ยวนี้ ไม่มีเงินทองข้าวของให้สร้างคุณค่ากันแล้ว คงต้องหันมาสร้างคุณค่าในการ เป็น ตัวตนแท้ๆของเราเสียที
ต่อเมื่อเลิกใช้เม็คอัพ นั่นแหละ เราจึงจะเห็นว่าใครหน้าตาสวยงามแท้จริง ฉันใดก็ต่อเมื่อมีเงินทองข้าวของน้อยลง เราจึงจะเห็นธาตุแท้ของคุณค่า ศักดิ์ศรี และบารมีของแต่ละคน ฉันนั้น
มองจากแง่นี้แล้ว สภาพเศรษฐกิจบ้านเราในขณะนี้ คงจะไม่เลวร้ายไปเสียทุกอย่าง •