การสื่อสารทุกรูปแบบรวดเร็วเกินทันใจ
พร้อมกับเรื่องราวข่าวสารมีมากจนตั้งตัวไม่ติด
ไม่ต่างกับน้ำบ่าทะลักออกมาจากเขื่อนเล็กเขื่อนใหญ่
ท่วมท้นพุ่งชนไหลปะทะทุกอย่างที่ขวางหน้า
ผ่านไปรวดเร็วเหมือนตอนมา
ทิ้งร่องรอยทิ้งความเสียหายทิ้งน้ำเจิ่งท่วมที่ลุ่มทุกแห่ง
จะต่างก็ตรงที่นานทีน้ำจะบ่าไหลทะลักที
แต่ข้อมูลการสื่อสารพรั่งพรูหาตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืน
ผ่านมารวดเร็วผ่านไปรวดเร็วหากไม่คิดหน่วงเหนี่ยวเก็บเป็นข้อมูล
เร็วกว่าการปิดการเปิดเครื่องมือสื่อสารก็ว่าได้
ทั้งที่เครื่องไม้เครื่องมือสื่อสารมีมากจนหาใช้ไม่ทัน...

ในเมื่อข้อมูลข่าวสารมีให้เลือกไม่อั้นจากไม้จิ้มฟันยันเรือรบ
การเลือกกลายเป็นเรื่องยากจนต้องปวดหัวเวียนเกล้า
ไม่ใช่ว่าไม่มีให้เลือกแต่มีมากจนเลือกไม่ถูก
ที่แย่คือตัวเลือกแต่ละตัวล้วนน่าสนใจดูดีโดนใจ
จนเลือกทีไรให้รู้สึก “รักพี่เสียดายน้อง” ทุกทีไป
กลายเป็นตัวแปร “มากมาย” “เลือกไม่ถูก” “เลือกได้ไม่หมด”
ก่อให้เกิดอารมณ์หลากหลายทั้งตื่นเต้นเร้าตาทั้งอยากได้ทั้งเสียดาย
ไม่ต่างกับความรู้สึกยามเข้าห้างใหญ่ดาษดื่นไปด้วยสินค้า
แต่ละชิ้นแต่ละอย่างเหมือนพูดจาได้พากันชักชวนเชื้อเชิญแกมบังคับ
จนให้เกิดความรู้สึกว่าก่อนนี้ไม่เห็นจำเป็นตอนนี้ไม่มีไม่ได้เสียแล้ว
ทั้งดูเก๋ดูเท่ห์ดูดีดูลงตัวดูทั้งใครๆเขามีกินมีใช้มีใส่กันทั้งนั้น
ทำงานหามรุ่งหามค่ำมาตั้งนมนาน “ให้รางวัลตัวเอง” ไม่ได้ให้รู้ไป
จากแค่แวะผึ่งแอร์เดินห้างดูสินค้าต้องกลับออกไปมีของติดมือ
พร้อมความตื่นเต้นยินดีสะใจระคนความเสียดายเงินทุกทีไป...

ควบคู่ไปกับความรวดเร็วและความหลายหลากของข้อมูลข่าวสาร
ก็มี “สิ่งเร้า” ให้ต้องเกิด “ปฏิกิริยา” ทุกข้อมูลทุกครั้งไป
กระทั่งกลายเป็น “สมการ” อัตโนมัติของชีวิตประจำวัน
เอาไปเอามากลายเป็นธรรมชาติของคนยุคการสื่อสารไปโดยปริยาย
และนี่คือที่มาที่ไปของความเครียดความเหนื่อยความสับสน
เพราะเอาแต่ตั้งรับมากกว่ารุกเอาแต่ตามมากกว่านำเอาแต่ตอบมากกว่าถาม
แทบหมดความเป็นตัวของตัวเองเพราะปล่อยให้คนอื่นเชิด
ไม่ต่างกับหุ่นเชิดหุ่นยนต์ที่ถูกโปรแกรมไว้เสร็จสรรพ
กระทั่งไม่สามารถดำเนินชีวิตจากแก่นแห่งตนได้อีกต่อไป
และในเมื่อไม่ดำเนินชีวิตจากแก่นคุณค่าทุกอย่างก็อยู่แค่ “skin deep”
หน้าตารูปร่างสัดส่วนเสื้อผ้าของกินของใช้รถราบ้านช่องพาหนะ
ข้อมูลสื่อสารการโฆษณารายการโทรทัศน์ส่ง “สิ่งเร้า” ยั่วยวนใจมา
ยังไม่ทันถามแก่นแห่งใจหาจุดยืนก็มี “ปฏิกิริยา” โต้ไปเรียบร้อยแล้ว
ทุกอย่างเป็นไปรวดเร็วเสร็จสรรพอยู่ในระดับ “skin deep” เหมือนเดิม...

ปัญหายุ่งยากที่เกิดในสังคมทุกวันนี้ชี้บอกความจริงนี้ได้ชัดเจน
การฉ้อราษฎร์บังหลวงกินบ้านกินเมืองกินถนนกินต้นไม้
ล้วนมาจาก “สิ่งเร้า” และ “ปฏิกิริยา” ระดับ “skin deep” ทั้งนั้น
ไม่เคยลึกเข้าไปถึงแก่นแห่งความสำนึกศีลธรรมจรรยาบรรณ
ข้าฯได้ประเทศชาติบ้านเมืองล่มจมบอบช้ำเสียหายช่างมัน
พร้อมเข้าข้างแก้ตัว “รู้ๆอยู่ใครมีโอกาสแบบนี้ก็คงทำกันทั้งนั้น”
ตามมาด้วยการฉ้อโกงทุกระดับไม่เว้นแม้โกงเรียนโกงสอบ
“สิ่งเร้า” มา “โอกาส” เป็นใจก็มี “ปฏิกิริยา” ระดับ “skin deep” เช่นเคย
เอาไปเอามาข้อมูลข่าวสารแทนที่สะกิดความสำนึกดีชอบ
กลายเป็น “ชี้โพรงให้กระรอก” ได้ทุกเรื่องทุกสถานการณ์
ไม่เคยมาฉุกคิดมาตริตรองว่าคุณค่าระดับ “skin deep” ไม่จีรัง
วันนี้อยู่พรุ่งนี้หายมีคุณค่าในชีวิตนี้แต่ไร้ความหมายในชีวิตหน้า
น่าจะสังวรเลือกคุณค่าที่เลย “skin deep” เข้าไปถึงแก่นแห่งตนเสียที •

 

 



-TOP-