หตุการณ์ชุมนุมที่ราชประสงค์ยังคงเป็นฝันร้ายสำหรับคนไทย
ถึงจะมีความพยายามเยียวยาสมานฉันท์ปรองดองทุกระดับ
แต่ก็ไม่มีใครกล้ามั่นใจยืนยันรับรองเชื่อมั่นในความเป็นไปได้
ภายนอกดูสงบเรียบร้อยเป็นปกติแต่ลึกลงไปยังคงอึมครึม
ไม่ต่างกับทะเลก่อนสึนามิถล่มทลายชายฝั่งไทยไม่กี่ปีก่อน
น้ำทะเลลดลงไปไกลกว่าที่เคยพาให้ตื่นตาตื่นใจแกมพิศวง
หาดทรายทอดยาวลึกลงไปจนเห็นปลาเห็นหอยติดค้างรายเรียง
หลายคนอดไม่ได้ที่จะเดินย้อนลงไปสำรวจเดินดูด้วยความตื่นเต้น
ลมฟ้าอากาศก็ดูเป็นใจไม่พัดไม่เคลื่อนไหวให้ต้องเหนียวตัว
กระทั่งคลื่นใหญ่ถาถมเข้ามาลูกแล้วลูกเล่านั่นแหละจึงพากันไหวตัว
หันหลังให้ทะเลวิ่งเข้าฝั่งหาที่หลบที่กำบังที่ยึดเหนี่ยวแทบไม่ทัน
กว่าจะรู้อะไรเป็นอะไรหลายชีวิตต้องหายสาบสูญไปต่อหน้าต่อตา...

แม้การชุมนุมจะจบลงคนพากันกลับถิ่นฐานบ้านเกิด
ทิ้งร่องรอยทิ้งความเสียหายไว้ให้เห็นทั้งบนถนนทั้งตามอาคารรอบข้าง
คนหายกลัวหายตกใจพากันไปเดินดูเดินสำรวจบันทึกภาพเก็บไว้
แต่ใจลึกๆต่างรู้สึกว่ายังไม่จบยังไม่มั่นใจยังต้องติดตามอย่าได้กระพริบตา
การก่อกวนการวางระเบิดการก่อการร้ายยังมีให้เห็นเป็นระยะ
ตราบใดที่ยังยึดทุกอย่างอยู่แค่ระดับ skin deep เหมือนเคย
เริ่มตั้งแต่สีเสื้อสีธงย้อนไปถึงผลประโยชน์ทางการเมือง
ลามไปถึงผลตอบแทนด้านเงินทองที่มากระตุ้นต่อมตัณหา
ปากก็ร้องบอกทำเพื่อชาติทำเพื่อประชาธิปไตยทำเพื่อความชอบธรรม
แต่ความรักชาติความต้องการประชาธิปไตยยังคงอยู่แค่ skin deep
ปากร้องเพลงชาติแต่ใจยังคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก
ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยไปทำลายประชาธิปไตยคนอื่นไป
สึนามิการเมืองยังคงต้องเกิดตราบใดเข้าไม่ถึงแก่นสักที...

จะว่าไปแล้วก็เริ่มตั้งแต่ชีวิตประจำวันที่เห็นๆ
ความเป็นพี่น้องร่วมชาติร่วมโลกยังคงไม่เกิดยังคงไม่มีให้เห็น
ตราบใดที่ยังคิดยังมองยังเห็นยังทำกันอยู่แค่ skin deep
เห็นแค่ตัวตนของคนแต่ละคนไม่เลยเข้าไปถึงความเป็นมนุษย์
เลยเห็นแค่รูปร่างหน้าตาเสื้อผ้าเครื่องประดับแต่ไม่เคยเข้าถึงจิตวิญญาณ
ความที่เคยมีใจต่อกันก็เหลือแค่สิ่งของเงินทองที่สลับมือกันไปมา
วันๆมุ่งแต่จะทำเงินสะสมวัตถุสิ่งของเรื่องจิตใจไว้ตอนสะดวกยามว่าง
แล้วก็เที่ยวมองเที่ยวเทียบศักดิ์ศรีของคนจากสิ่งที่ “มี” ไม่ใช่สิ่งที่ “เป็น”
กระทั่งดึงคุณค่าทุกอย่างมาไว้แค่เปลือกนอกแค่ระดับ skin deep
แค่ชื่อนามสกุลแซ่ตระกูลเชื้อชาติฐานะก็ประกันคุณค่าได้แล้ว
แม้แต่ความรักมิตรภาพความเป็นพี่น้องก็ยากที่จะเว้น
รักเพราะชอบหน้าตาผิวพรรณสัดส่วนแต่งตัวได้เก๋ดูลงตัว
พออะไรเปลี่ยนแปลงไปใจก็เริ่มโลเลละล้าละลังผิดหวังเหมือนหลงผิด
ชีวิตคู่ชีวิตเพื่อนชีวิตพี่น้องก็มีอันเปลี่ยนแปลงกระทบกระทั่งไปด้วย
จึงไม่แปลกใจที่คนรู้สึกว้าเหว่เหงาโดดเดี่ยวทั้งที่แวดล้อมด้วยผู้คนสิ่งของ
เพราะใจมนุษย์นั้นอยู่ลึกเลยจากระดับ skin deep เข้าไป
การดำเนินชีวิตติดต่อสัมพันธ์กันแค่ระดับผิวเผินภายนอกย่อมไม่ถึงใจ
ใจคนจึงต้องโหยหาเรียกร้องส่งสัญญาณเตือนเป็นระลอก
แต่ก็ไม่ได้ความสนใจให้ความสำคัญเพราะคนเอาแต่เมามันกับเปลือกนอก
ที่สุดก็กลายเป็น “สึนามิใจ” ถาโถมเข้าใส่สังคมมนุษย์แทบตั้งตัวไม่ติด
กระทบศักดิ์ศรีมนุษย์จนต้องถาม “นี่หรือคน”
เมื่อคนกลายเป็นแค่เครื่องมือผลประโยชน์เป็นแค่วัตถุความสนุก
กระทบครอบครัวจนต้องตัดพ้อ “นี่หรือความเป็นพ่อเป็นแม่เป็นพี่เป็นน้อง”
เมื่อแค่อยู่บ้านเดียวกันแต่ไม่มีเยื่อใยไม่มีความรักไม่มีความอบอุ่น
กระทบแก่นแห่งเพศมนุษย์จนต้องสังเวชใจ “นี่หรือที่ว่ารัก”
เมื่อสนใจกันแค่เป็นหญิงแค่เป็นชายเอาแต่สนุกสนานไม่เลือกหน้า
บรรยากาศสังคมยังคงอึมครึม “สึนามิใจ” พร้อมเกิดได้ทุกเมื่อ
ตราบใดที่คนในสังคมยังพอใจอยู่แค่ระดับ skin deep ต่อไปอย่างนี้ •

 



-TOP-