
โดย บ.สันติสุข
30.09.2551
วัยรุ่น วัยหวาน วัยสดชื่น วัยรัก
วัยโดดเดี่ยว โดดเดี่ยวเดียวดาย ตัวคนเดียว
ขณะที่แรงหนึ่งผลักดันให้เข้าหาผู้อื่น
แรงอีกแรงคอยแต่จะดึงให้ห่างออกมา
ตัวคนเดียว ไม่เหมือนใคร ต่างไปจากทุกคน
คนเรารู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายได้สองกรณี
อยู่ห่างไกล ขาดการติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่นไม่ว่าทางใด
การพูด การเขียน การฟัง การไปมาหาสู่...
และอีกกรณีหนึ่ง เมื่ออยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้อื่น
แต่รู้สึกว่าไม่มีอะไรสามัญกับผู้อื่นเลย ทัศนคติ ความคิดเห็น
วิถีชีวิต การพูด การกระทำ การแต่งตัว ค่านิยม...
ความโดดเดี่ยวอย่างแรกยังพอทน เพราะความจำเป็นบังคับ
สภาพแวดล้อมสร้างมันขึ้นมาอย่างนั้น ไปๆ ก็อาจจะเคยชิน
แม้ธรรมชาติสัตว์สังคมจะเรียกร้องเป็นครั้งเป็นคราว ในยามอารมณ์สูงต่ำ
แต่ความโดดเดี่ยวประเภทหลังนี่สิ ร้ายกาจ
อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กัน เดินแทบจะเหยียบเท้ากันตาย
เห็นหน้ากันทุกวัน พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันด้วย
อาศัยหลับนอนอยู่ในบ้านเดียวกัน ทานอาหารจากโต๊ะเดียวกัน...
แต่จิตใจห่างไกลกันลิบลับ
รู้จักกันก็แต่ใบหน้า
ประชาสัมพันธ์กันก็แต่คำพูด
อยู่ใกล้ชิดกันก็แต่กาย
มันเป็นความโดดเดี่ยวที่แสนจะว้าเหว่
ที่วัยรุ่นกำลังประสบกันอยู่
วัยรุ่นคือวัยที่เท้าข้างหนึ่งอยู่ในความเป็นเด็ก
และอีกข้างหนึ่งอยู่ในความเป็นคนใหญ่
มีคนพูดไว้อย่างคมคาย แต่ก็ชวนให้ต้องคิดไม่น้อย
ขณะที่ร่างกายเติบโตสูงใหญ่ แต่จิตใจของวัยรุ่นยังมีความเป็นเด็กอยู่
ไม่กล้าตัดสินใจ ขาดความมั่นใจ ขาดความเป็นตัวของตัวเอง...
วัยรุ่นจึงเข้ากับเด็ก ๆ ได้ก็ไม่สนิทสนมเต็มที่เพราะร่างกายสูงใหญ่
รสนิยมเปลี่ยนไป ความนึกคิดตลอดจนทัศนคติ
กำลังพัฒนาแตกต่างจากเด็กๆ ไปเรื่อยๆ
เวลาเดียวกัน วัยรุ่นก็เข้ากับคนใหญ่ได้ไม่หมดไปทุกอย่าง
แม้ร่างกายจะสูงใหญ่ แต่งกายคล้ายกัน แต่จิตใจยังมีความเป็นเด็ก
ขาดเอกลักษณ์ของตน ขาดความรับผิดชอบ
วัยรุ่นจึงเป็นวัยเก้งก้าง วางตัวไม่ถูก เขิน อายได้ง่าย
จะวางตัวเป็นเด็กก็ไม่สนิท
จะวางตัวเป็นผู้ใหญ่ก็ใช่จะถนัด
วัยรุ่นจึงเป็นวัยโดดเดี่ยวเดียวดายโดยปริยาย
และถ้าต้องมาเจอกับความไม่เข้าใจของคนใหญ่
พ่อแม่ ครูบาอาจารย์เข้าด้วย
วัยรุ่นก็ยิ่งจะรู้สึกโดดเดี่ยวเป็นทวีคูณ
ถึงขนาดรู้สึกราวกับว่าตนเองอยู่กับคนละโลกกับวัยอื่น ๆ
ที่สุดก็เหลือเพียงแต่คนที่อยู่ในวัยเดียวกันเท่านั้น
ที่พอจะคบหา เข้าอกเข้าใจ พูดคุยกันรู้เรื่อง
รสนิยมตรงกัน ทัศนคติคล้ายกัน
และนี่เป็นที่มาของพฤติกรรมเกาะกลุ่ม
เกาะพวกอย่างเหนียวแน่นของวัยรุ่น
เพราะพวกเขาทนโดดเดี่ยวตัวคนเดียวไม่ได้
ต่อเมื่อมีความเห็นอกเห็นใจและพร้อมจะเข้าใจ
เวลาสำหรับมานั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
การยอมรับจากคนใหญ่ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์...
เมื่อนั้น ความโดดเดี่ยวตัวคนเดียวของวัยรุ่นจะน้อยลงอีกแยะ
แม้จะไม่หายหมดสิ้นเพราะธรรมชาติของวัย
แต่อย่างน้อย เท้าแต่ละข้างของวัยรุ่น
ที่เหยียบอยู่ระหว่างสองวัยดังกล่าว
จะเหยียบยืนอยู่ด้วยความสบายใจ สดชื่น
และหรรษาเริงร่าสมธรรมชาติของวัยรุ่น
เพราะลองคนเรารู้สึกว่า
ยังไงเสียตัวไม่ใช่คนเดียวก็ให้รู้สึกอบอุ่นมั่นใจแล้ว
ทั้งนี้และทั้งนั้นขึ้นอยู่กับทีท่าของคนใหญ่ทุกคน
ที่ไม่ทางใดทางหนึ่งมีส่วนพัวพันกับวัยอันบอบบางของมนุษย์เรานี้
ถ้าคุณปฏิบัติต่อวัยรุ่นแบบต่อเด็กๆ วัยรุ่นก็จำทำตัวเป็นเด็ก
แต่ถ้าคุณปฏิบัติต่อวัยรุ่นแบบผู้ใหญ่ วัยรุ่นก็จะทำตัวเป็นผู้ใหญ่
ใครพูด ผมจำไม่ได้
แต่น่าที่เราทุกคนที่เลยวัยนี้แล้ว
ลองปฏิบัติกันดู.