หน้าถ้ำแม่พระ

บ.สันติสุข

.....................................................

 

      บ่ายวันนั้น
      บริเวณหน้าถ้ำแม่พระแห่งเมืองลูร์ดเนืองแน่นไปด้วยผู้คน
      แม้จะย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่อากาศยังคงหนาวเยือก เพราะลมที่พัดมาจากเทือกเขาสูงที่เรียงรายอยู่รอบข้าง
      แต่ดูจะไม่มีใครสนใจเรื่องดินฟ้าอากาศ
      ทุกคนหันหน้าไปทางเดียวกัน แม้จะอยู่ในอิริยาบถต่างๆ กัน
      บ้างก็คุกเข่าบนพื้นหินผิวเรียบ ตาจดจ้องอยู่ที่รูปแม่พระที่ตั้งอยู่ในโพรงหินทรงเรียว อยู่สูงขึ้นไปเล็กน้อยทางด้านขวาของถ้ำใหญ่
      บ้างนั่งอยู่บนม้ายาว มือสาวสายประคำ ปากขมุบขมิบพร่ำคำสวด
      ชายวัยกลางคน อยู่ในท่ากราบ หน้าผากจรดพื้น ไม่มีทีท่าจะสนใจใคร ราวกับจะอยู่เพียงลำพังคนเดียวหน้าถ้ำ
      วัยรุ่นหนุ่มสาวสองสามคน ท่าทางจะมาด้วยกัน กำลังคุกเข่า กางแขนสวดอยู่อย่างสำรวม ไม่มีอาการเคอะเขินเอียงอาย
      ผู้ที่เพิ่งมาถึง มือถือเทียนยาว เดินเป็นแถว ผ่านเชิงเทียนใหญ่ที่มีเทียนจุดปักอยู่เป็นชั้นๆ วางเทียนในกล่องข้างๆ ก่อนที่จะเข้าไปในถ้ำ เพื่อสัมผัสผนังถ้ำด้วยความศรัทธา และก้มมองน้ำพุใสพวยพุ่งออกมาจากใต้ถ้ำ
      ด้านหน้าสุด มีที่สำหรับคนป่วย
      บางคนนั่งรถเข็น มีผ้าห่มปิดมิดชิดถึงปลายเท้า แต่ละคนมีอาสาสมัครในชุดพยาบาลน้ำเงินขาวคุกเข้าสวดอยู่ข้างๆ
      บางคนก็นอนยาวอยู่บนเตียงเข็น หลับตาพริ้ม ปากขยับเอื้อนเอ่ยถ้อยคำที่กลั่นกรองมาจากส่วนลึกของดวงใจ
      ความสงบสำรวม...ความศรัทธา...ความเชื่อ...ความรัก...เป็นบรรยากาศอบอวลอยู่ในบริเวณหน้าถ้ำ ที่ทุกคนรู้สึกและสัมผัสได้
      จนกระทั่งว่า หลายคนที่มาเพราะความักรู้มักเห็นอดไม่ได้ที่จะร่วมสวดภาวนา เรียกขานพระนามของพระแม่... พระมารดาของชนทุกชาติทุกภาษา
      ทุกคนที่อยู่ที่นั่นดูจะลืมการพูดจาไปชั่วขณะ จะได้ยินก็เสียงสะอื้น...
      ใช่ เสียงสะอื้นที่ดังมาจากเตียงคนป่วยรายหนึ่ง เป็นผู้หญิงอยู่ในวัยคุณป้า
      เสียงสะอื้น และหยาดน้ำตาใสๆ ที่ไหลรินจากสองข้างตาเป็นทางยาวไปถึงใบหู... แต่ใบหน้านั้นยิ้มละไม
      “ฉันดีใจ...ดีใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่”
      คุณป้าตอบ เมื่อคนข้างๆ พากันถามด้วยความเป็นห่วง
      “ฉันดีใจที่มีโอกาสมาพบแม่...นี่ครั้งที่สามแล้ว”
      คุณป้าอธิบายต่อ หน้าตาอิ่มเอิบ
      “ฉันไม่เคยขอเลย...”
      คุณป้ายืนยันแข็งขัน เมื่อมีคนถามว่าเคยขอแม่พระทำอัศจรรย์ให้หายป่วยหรือไม่
       “ตรงข้าม ฉันได้แต่ขอบคุณแม่พระ ขอบคุณที่พระแม่ทรงโปรดให้ฉันได้เจ็บป่วย จะได้มีโอกาสใช้โทษบาป และถวายเป็นบูชาเพื่อให้คนบาปกลับใจ...อยู่ในสภาพเช่นนี้ ฉันมีโอกาสสวดได้มากๆ”
      คุณป้าชี้แจง พร้อมกับยกมือขวาอันผอมตอบที่ถือสายประคำมันเลื่อมขึ้นมาประกอบคำพูด
      “สิ่งที่ฉันอยากและสวดขออีกอย่างคือ ได้มาหาแม่ที่นี่อีก...”
      บรรยากาศแห่งความสงบเงียบ สำรวม และศรัทธาในขณะนั้นมีความประทับใจเพิ่มเข้าไปอีกอย่าง
      หลายคนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
      อะไรหนอที่อยู่เบื้องหลังพลังอันยิ่งใหญ่นี้...พลังที่จะร้องไห้ออกมาด้วยความเต็มตื้นยินดี แม้ร่างกายจะปวดร้าวทรมาน พลังที่ทำให้พร้อมจะทนทุกข์เจ็บปวดต่อไปโดยไม่คิดจะขอให้หายทั้งๆที่มีโอกาส...
      พลังแห่งความรัก...ความรักที่พระแม่ทรงมีต่อลูก และความรักที่ลูกมีต่อพระแม่
      ทุกครั้งที่ลูกมาหาพระแม่ ลูกได้รับพลัง
      สำหรับผม นี่คืออัศจรรย์ที่แท้จริงของเมืองลูร์ด •

 

 



-TOP-